ซึ่งหลายครั้งผู้ใช้อาคารหรือเจ้าของอาคารไม่สามารถสังเกตเห็นได้ด้วยตาเปล่า แต่เมื่อทำการสำรวจอาคารโดยทีมผู้เชี่ยวชาญกลับพบว่ามีจุดเสี่ยงที่อาจนำไปสู่ความเสียหายรุนแรงในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นรอยร้าวในเสาและคานที่ลึกเกินกว่ามาตรฐาน แสดงถึงความอ่อนตัวหรือการทรุดตัวที่อาจเกิดขึ้นแล้วในระดับโครงสร้างชั้นล่าง หรืออาจพบสนิมกัดกินเหล็กเสริมภายในคอนกรีตจากความชื้นสะสมที่ไม่ได้รับการจัดการอย่างถูกต้อง ซึ่งจะค่อยๆ บ่อนทำลายความแข็งแรงของโครงสร้างตลอดทั้งระบบ นอกจากนี้ยังมีปัญหาการรั่วซึมของน้ำฝนบริเวณหลังคาและผนังอาคารที่อาจทำให้เกิดเชื้อราหรือปัญหาสุขภาพในระยะยาวโดยที่ผู้อยู่อาศัยอาจไม่รู้ตัว
ในหลายกรณีที่ทำการสำรวจอาคาร
ยังพบว่าการต่อเติมอาคารโดยไม่ได้คำนึงถึงน้ำหนักบรรทุกหรือไม่ผ่านการอนุมัติจากวิศวกรที่มีใบอนุญาต ส่งผลให้เกิดการเสียสมดุลของโครงสร้าง โดยเฉพาะการต่อเติมบริเวณดาดฟ้า ชั้นลอย หรือการเจาะทะลุพื้นเพื่อเดินท่อระบบใหม่ โดยไม่มีการเสริมโครงสร้างรองรับที่เหมาะสม ซึ่งสิ่งเหล่านี้มักเป็นปัญหาเรื้อรังที่เกิดจากการละเลยในขั้นตอนการวางแผนหรือการเลือกใช้ช่างที่ไม่มีความรู้ด้านวิศวกรรมอย่างถูกต้อง การสำรวจอาคารจึงไม่ใช่แค่การตรวจสอบที่มองเห็นได้ในภายนอก แต่ยังเป็นการวิเคราะห์เชิงลึกถึงความมั่นคงในโครงสร้าง
พบปัญหาเกี่ยวกับระบบสุขาภิบาล เช่น ท่อน้ำดี ท่อน้ำเสีย ที่มีการอุดตันภายในหรือแตกชำรุดอยู่ภายใต้พื้นหรือผนัง ซึ่งหากไม่ได้รับการตรวจสอบจะทำให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ การรั่วซึมเข้าสู่ผนัง และสร้างความเสียหายต่อโครงสร้างในระยะยาว หรือในบางอาคารอาจพบว่าระบบระบายอากาศไม่เพียงพอ สำรวจอาคารทำให้เกิดความร้อนสะสมหรือความชื้นที่มีผลต่อสุขภาพของผู้อยู่อาศัย โดยเฉพาะในห้องที่ไม่มีหน้าต่างหรือห้องใต้ดินที่ปิดทึบเป็นเวลานาน และที่สำคัญคือการตรวจพบการใช้วัสดุก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน
การสำรวจอาคารเป็นสิ่งที่ควรทำอย่างสม่ำเสมอคือ
การปรับปรุงให้สอดคล้องกับกฎหมายอาคารและข้อกำหนดของหน่วยงานราชการ ซึ่งมักมีการปรับปรุงเงื่อนไขเป็นระยะ เช่น ข้อกำหนดด้านการติดตั้งระบบดับเพลิง ระบบสัญญาณเตือนภัย เส้นทางหนีไฟ และการจัดพื้นที่สำหรับผู้พิการหรือผู้สูงอายุที่ใช้รถเข็น ซึ่งอาคารที่ไม่ได้รับการสำรวจและปรับปรุงตามข้อกำหนดเหล่านี้อาจไม่ผ่านการตรวจสอบจากเทศบาลหรือกรมโยธา และเสี่ยงต่อการถูกสั่งระงับการใช้งานอาคารบางส่วนหรือทั้งหมด นอกจากนี้หากเกิดอุบัติเหตุแล้วพบว่าอาคารมีข้อบกพร่องที่ควรตรวจพบก่อนหน้านั้น ดังนั้นหากต้องการความมั่นใจในทรัพย์สินที่ถือครองอยู่ หรือมีแผนจะซื้ออาคารใหม่ ปรับปรุงต่อเติม หรือเปลี่ยนรูปแบบการใช้งาน การสำรวจอาคารจึงไม่ใช่เพียงทางเลือก แต่คือความจำเป็นในยุคที่ความปลอดภัยต้องมาก่อน พร้อมทั้งเป็นการยืนยันถึงความรับผิดชอบต่อชีวิตของผู้อยู่อาศัย ผู้ใช้งาน และบุคคลทั่วไปที่เข้ามาในอาคาร ไม่ว่าจะเป็นอาคารพักอาศัย อาคารพาณิชย์ โกดังเก็บสินค้า โรงงาน โรงแรม ห้างสรรพสินค้า หรืออาคารสาธารณะ การสำรวจอาคารโดยวิศวกรหรือผู้เชี่ยวชาญด้านโครงสร้างและระบบอาคารจึงเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า
